Sunday, 18 June 2017

Formula yellow oil for registration

http://dd-productbkk.com/product-detail.php?gid=1-001-008&id=120


Product Name : Mentol
INCI NAME :  Menthol Crystal
เป็นส่วนผสมหลักของยาหม่อง และ น้ำมันนวด
ละลายได้ดีในน้ำมัน ทำให้มีความรู้สึกเย็น กระปี้กระเป่า
ใช้ร่วมกันทั้งสามตัว คือ เมนทอล การบูร พิมเสน

เมนทอล เป็นสารประกอบอินทรีย์ มีลักษษะเป็นผลึกสีขาว มีกลิ่นแรง หอมเย็น เมือสูดดมจะให้ความรู้สึกเย็นซ่า บริเวณเยื่อเมือกของจมูกและลำคอ
กลิ่นคล้ายเปปเปอร์มิ้น สเปียร์มิ้นต์และพืชอื่นๆ ในสกุลเมนทา การนำไปใช้ประโยชน์ คือยาหม่อง ยาแก้ไอ น้ำมันนวด ยาแก้คัน ยาประเภทสูดดมต่างๆ
หรือในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่นแป้งหอม สบู่หอม โลชั่น แชมพู และใช้เป็นสารแต่งกลิ่น


การนำไปใช้ และ ปริมาณที่แนะนำ
Recommendation Percentage

หลอมเข้าด้วยกันทั้งหมด 2-30%
ละลายในส่วนผสมทั้งหมด 2-30%


เมนทอล มีอีกชื่อหนึ่งว่า การบูรเปปเปอร์มินต์ เป็นาารประกอบอินทรีย์ลักษณะเป็นผลึกสีขาว มีกลิ่นแรง หอมเย็น เมื่อสูดดมจะให้ครามรู้สึกเย็นซ่า บริเวณเยื่อเมือกของจมูกและลำคอ กลิ่นและรสคล้ายกลิ่น และรสของพืชเปปเปอร์มินต์ สเปียร์มินต์และพืชอื่น ๆ ในสกุลเมนทา พืชสกุลนี้มีชื่อสามัญเรียกกันว่ามินต์ เท่าที่พบมีมากกว่า 25 ชนิด สะระแหน่ก็จัดอยู่ในสกุลนี้ พืชในสกุลนี้สร้างน้ำมันหอมระเหยขึ้นได้โดยวิธีการชีวิเคมีอันสลับซับซ้อน น้ำมันหอมระเหยที่พืชสกุลนี้สร้างขึ้นมานั้นเรียกกันว่า น้ำมันมินต์ ซึ่งประกอบด้วยสารต่าง ๆ มากมายประมาณ 40 ชนิด แต่องค์ประกอบส่วนใหญ่คือ เมนทอล
 
การนำไปใช้ประโยชน์
1. ใช้ในทางเภสัชกรรม เช่น ทำยาหม่อง ยาแก้ไอ ยาแก้ปวดท้อง ปาล์มต่าง ๆ น้ำมันท่านวด ยาทาแก้คัน ยาแก้หวัด ยาประเภทสูดดมต่าง ๆ
2. ใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ เช่น ครีม แป้งหอม สบู่หอม โลชั่น แชมพู
3. ใช้เป็นสารปรุงรสและกลิ่น เช่น ลูกอม ยาสีฟัน หมากฝรั่ง บุหรี่   
 
                                                 
สัมผัสทางหายใจ   
- การหายใจเข้าไป เมื่อมีการเคลื่อนย้ายหรือการใช้งานอาจมีการหายใจเอาสารนี้เข้าไป เช่น ระหว่างให้ความร้อน การพ่น หรือการกวนผสม การหายใจเอาสารเคมีนี้เข้าไปจำนวนเล็กน้อยระหว่างการขนถ่ายไม่น่าจะทำให้ เกิดอันตราย ถ้าหายใจเข้าไปจำนวนมาก อาจเป็นอันตรายได้ เกิดอาการระคายเคืองต่อจมูก ทางเดินอาหาร
สัมผัสทางผิวหนัง   
- การสัมผัสถูกผิวหนัง สารนี้อาจเป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังระคายเคืองเล็กน้อย ถ้ามีการสัมผัสนานๆหรือสัมผัสซ้ำจะทำให้ผิวหนังแห้ง อาจมีอาการผื่นแดง แผลไหม้ ผิวหนังแห้ง และเป็นรอยแตก เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ และแผลพุพอง สารนี้อาจซึมผ่านผิวหนังเข้าสู่ร่ายกายได้
กินหรือกลืนเข้าไป   
-  การกลืนหรือกินเข้าไปปริมาณเล็กน้อยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ถ้ากลืนหรือกินเข้าไปจำนวนมากอาจเป็นอันตรายได้
สัมผัสถูกตา   
- การสัมผัสถูกตาจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อตาเล็กน้อย เกิดอาการปวดแสบปวดร้อน น้ำตาไหล และตาแดง
การก่อมะเร็ง ความผิดปกติ,อื่น ๆ   
- การสัมผัสสารนี้ผ่านการหายใจ การกลืนหรือกินเข้าไป การสัมผัสถูกผิวหนัง จะทำให้เกิดการระคายเคือง(จมูก คอ ทางเดินหายใจ)
 
ความคงตัวและการเกิดปฏิกิริยา
- ความคงตัว : สารนี้มีความเสถียร
- สารที่เข้ากันไม่ได้ : ควรหลีกเลี่ยงสารที่เป็นสารออกซิไดซ์อย่างแรง
- สารเคมีอันตรายที่เกิดจากการสลายตัว : จะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์
- อันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ : ผลิตภัณฑ์จะไม่ได้รับอันตรายจากการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอร์ไรเซชั่น





https://www.chemipan.com/home/index.php/635-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2/636-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%87/638-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A2/2759/2759-%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-menthol-250ml-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%B5.html


                               
         น้ำมันหอมระเหยเมนทอล เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมยาที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและระบบทางเดินหายใจ Mentha arvensis ได้ถูกใช้เป็นยาแก้ยาระงับปวด ยาฆ่าเชื้อโรค เกร็ง ในเครื่องสำอางนิยมใช้กับสบู่ ยาสีฟัน แชมพู   ในทางสุคนธบำบัดนำไปใช้ในการนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ มีฤทธิ์เย็นให้กลิ่นมินต์สดชื่นกระจายและฉุน สามารถใช้บรรเทาอาการไซนัสในโพรงจมูก ช่วยปรับสมดุลย์ในผิวหนังและเส้นผม


                                                 
ข้อแนะนำในการนำไปใช้  :   
- เป็นส่วนผสมสำหรับการทำยาหม่อง balm /ointment
- สามารถนำมาเจือจางในน้ำมันตัวพาเพื่อใช้นวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ข้อควรระวังก่อนนำไปใช้  :   
- อย่าสูดดมโดยตรง มีผลให้ปวดหัวหรือวิงเวียนสำหรับบางคน
- ใช้ภายนอก ห้ามรับประทาน
- ไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์ เด็กเล็ก  และผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย และควรใช้อย่างระมัดระวัง



http://dd-productbkk.com/th/product-detail.php?id=122&gid=1-001-008

รายละเอียดการนำไปใช้
Description

Product Name : Camphor
INCI NAME : Cinnamomum camphora
เป็นส่วนผสมของยาหม่อง และ น้ำมันนวด
ละลายได้ดีในน้ำมัน มีสรรพคุณในการช่วยขับเสมหะ บำรุงธาตุ
ใช้ร่วมกันทั้งสามตัว คือ เมนทอล การบูร พิมเสน


การนำไปใช้ และ ปริมาณที่แนะนำ
Recommendation Percentage

หลอมเข้าด้วยกันทั้งหมด 2-20%

ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
           เป็นผลึกที่แทรกอยู่ในเนื้อไม้ของต้นการบูร ที่เกิดอยู่ทั่วไปทั้งต้น  มักจะอยู่ตามรอยแตกของเนื้อไม้  มีมากที่สุดในแก่นของรากรองลงมาที่แก่นของต้น  ส่วนที่อยู่ใกล้โคนต้นจะมีการบูรมากกว่าส่วนที่อยู่สูงขึ้นมา  ในใบและยอดอ่อนมีการบูรอยู่น้อย  ในใบอ่อนจะมีน้อยกว่าใบแก่ ผงการบูรเป็นเกล็ดกลมเล็ก  ๆ  สีขาวแห้ง  อาจจับกันเป็นก้อนร่วน ๆ  แตกง่าย  ทิ้งไว้ในอากาศ  จะระเหิดไปหมด มีรสร้อนปร่าเมา
สรรพคุณ:
           ตำรายาไทย: “การบูร”  มีรสร้อนปร่าเมา ใช้ทาถูนวดแก้ปวด แก้เคล็ดบวม ขัดยอก แพลง แก้กระตุก แก้ปวดข้อ แก้ปวดเส้นประสาท แก้รอยผิวหนังแตก แก้พิษแมลงต่อย และโรคผิวหนังเรื้อรัง เป็นยาระงับเชื้ออย่างอ่อน ขับเหงื่อ ขับเสมหะ ขับปัสสาวะ แก้ไข้หวัด และขับลม บำรุงธาตุ บำรุงกำหนัด ยากระตุ้นหัวใจ บำรุงหัวใจ ใช้เป็นส่วนผสมในยาหอมต่างๆ เช่น ยาหอมเทพจิตร เป็นยาชาเฉพาะที่ เป็นยาระงับประสาท แก้อาการชักบางประเภท ใช้การบูร 1-2 เกรน แก้ปวดขัดตามเส้นประสาท ข้อบวมเป็นพิษ แก้เคล็ดบวม เส้นสะดุ้ง กระตุก ขัดยอกแพลง แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับน้ำเหลือง แก้เลือดลม บำรุงกำหนัด ขับเหงื่อ ขับเสมะหะ บำรุงธาตุ แก้โรคตา กระจายลม ขับผายลม นำมาผสมเป็นขี้ผึ้ง เป็นยาร้อน ใช้ทาแก้เพื่อถอนพิษอักเสบเรื้อรัง ปวดยอกตามกล้ามเนื้อ สะบักจม ทรวงอก ปวดร้าวตามเส้นเอ็น โรคปวดผิวหนัง รอยผิวแตกในช่วงฤดูหนาว แก้พิษสัตว์กัดต่อย วางในห้องหรือตู้เสื้อผ้าไล่ยุงและแมลง





http://dd-productbkk.com/th/product-detail.php?id=121&gid=1-001-008




พิมเสน ชื่อวิทยาศาสตร์ Borneol camphor (พิมเสนธรรมชาติ หรือ พิมเสนแท้)
สมุนไพรพิมเสน มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า พิมเสนเกล็ด (ไทย), ปิงเพี่ยน เหมยเพี่ยน (จีนกลาง) เป็นต้น[1]
ลักษณะของพิมเสน
โดยทั่วไปแล้วพิมเสนแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ พิมเสนที่ได้จากธรรมชาติ และพิมเสนสังเคราะห์ ซึ่งพิมเสนทั้งสองชนิดจะมีการระเหยและติดไฟได้ง่าย สามารถละลายได้ในแอลกอฮอล์ ปิโตรเลียมอีเธอร์ และคลอโรฟอร์ม แต่จะไม่ละลายหรือละลายได้ยากในน้ำ และมีจุดหลอมตัวของทางเคมีวิทยาอยู่ที่ 205-209 องศาเซลเซียส พิมเสนจะมีกลิ่นหอมเย็น รสหอม ฉุน เย็นปากคอ ในสมัยก่อนจะใช้ใส่ในหมากพลูเคี้ยว[2]
  • พิมเสนธรรมชาติ หรือ พิมเสนแท้ คือ พิมเสนที่ได้มาจากการระเหิดของยางจากต้นไม้ชนิดหนึ่งตามภาพด้านล่าง (ได้จากการกลั่นเนื้อไม้) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Dryobalanops aromatica Gaertn. จัดอยู่ในวงศ์ยางนา (DIPTEROCARPACEAE) (ภาษาจีนกลางเรียกว่า “หลงเหน่าเซียงสู้“) ลักษณะของไม้ชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีความสูงได้ถึง 70 เมตร มีกิ่งก้านสาขา ใบเป็นใบเดี่ยว ใบจะอยู่ที่ตอนบนของต้น ส่วนใบที่อยู่ตอนล่างจะออกตรงข้าม ลักษณะของใบเป็นรูปไข่ ขอบใบเรียบ ใบอ่อนเป็นสีแดง ดอกออกดอกเป็นช่อที่ปลายกิ่งและตามซอกใบ ส่วนผลเป็นผลแห้งมีปัก ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด[3]โดยยางที่ได้จากการระเหิดจะมีลักษณะเป็นเกล็ดใส มีขนาดเล็ก เป็นรูปหกเหลี่ยม และเปราะแตกได้ง่าย[1] พิมเสนจะมีเนื้อแน่นกว่าการบูร ระเหิดได้ช้ากว่าการบูร ติดไฟให้แสงจ้าและมีควันมาก แต่ไม่มีขี้เถ้า[2]
  • พิมเสนสังเคราะห์ หรือ พิมเสนเทียม คือ พิมเสนที่ได้จากสารสกัดจากต้นการบูร (ชื่อวิทยาศาสตร์ Cinnamomum camphora (L.) Presl. จัดอยู่ในจัดอยู่ในวงศ์อบเชย (LAURACEAE), ต้นหนาด (หนาดหลวง หนาดใหญ่ หรือพิมเสนหนาด ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Blumea balsamifera (L.) DC. จัดอยู่ในวงศ์ทานตะวัน (ASTERACEAE หรือ COMPOSITAE) หรือน้ำมันสนโดยผ่านวิธีทางเคมีวิทยา[1]

สรรพคุณของพิมเสน

  1. พิมเสนมีรสเผ็ดขม มีกลิ่นหอม เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงหัวใจ[1]
  2. ช่วยดับพิษร้อนในร่างกาย ทะลวงทวารทั้งเจ็ด[1]
  3. ช่วยกระตุ้นสมอง กระตุ้นการหายใจ[2]
  4. แก้ลมวิงเวียนหน้ามืด หัวใจอ่อน ทำให้ชุ่มชื่น[1],[2]
  5. ใช้เป็นยาระงับความกระวนกระวาย ทำให้ง่วงซึม[2]
  6. ตำรายาแก้ไอ แก้หลอดลมอักเสบ ให้ใช้พิมเสน 2 กรัม และขี้ผึ้ง 3 กรัม นำมาทำเป็นยาหม่อง ใช้ทาบริเวณลำคอและจมูกจะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้[1]
  7. ช่วยแก้ปากเปื่อย ปากเป็นแผล เหงือกบวม หูคออักเสบ[1]
  8. ใช้เป็นยาขับเหงื่อ ขับเสมหะ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ[1],[2]
  9. ช่วยขับลมทำให้เรอ ช่วยขับผายลม แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง แก้ปวดท้อง[1],[2]
  10. ช่วยรักษาแผลกามโรค[1],[2]
  11. ใช้รักษาบาดแผลสด แผลเนื้อร้าย[1],[2]
  12. ใช้เป็นยาฆ่าเชื้อโรคผิวหนังต่าง ๆ[1]
  13. การกลั่นใบและยอดอ่อนของหนาดด้วยไอน้ำ จะได้พิมเสนตกผลึกออกมา นำมาทำเป็นยากินแก้อาการท้องร่วง ปวดท้อง ใช้ขับลม หรือใช้ภายนอกเป็นผงใส่บาดแผล แก้แผลอักเสบ ฟกช้ำ และกลากเกลื้อน[2]
  14. ใช้แก้ผดผื่นคัน ให้ใช้พิมเสนและเมนทอล อย่างละ 3 กรัม ผงลื่นอีก 30 กรัม นำมารวมกันบดเป็นผงใช้ทาแก้ผดผื่นคัน[1]
  15. ใช้เป็นยาแก้ปวดบวม แก้อักเสบ[1]
  16. พิมเสนใช้เป็นส่วนผสมในตำรับยาหอมต่าง ๆ เช่น ยาหอมนวโกฐ ยาหอมเทพจิตร ซึ่งเป็นตำรับยาที่มีสรรพคุณโดยรวมคือแก้ลมวิงเวียน หน้ามืดตาลาย[2]
  17. พิมเสนจัดอยู่ใน “ตำรับยาทรงนัตถุ์” ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่อง 17 สิ่ง อย่างละเท่ากัน (รวมถึงพิมเสนด้วย) นำมาผสมกันแล้วบดเป็นผงละเอียด ใช้นัตถุ์แก้ลมทั้งหลาย ตลอดจนโรคที่เกิดในศีรษะ ตา และจมูก และยังมีอีกขนาดหนึ่งใช้เข้าเครื่องยา 15 สิ่ง (รวมทั้งพิมเสนด้วย) นำมาบดให้เป็นผงละเอียด ห่อด้วยผ้าบาง ทำเป็นยาดมแก้อาการวิงเวียน ปวดศีรษะ แก้สลบ ริดสีดวงจมูก คอ และตา[2]
  18. นอกจากนี้พิมเสนยังใช้เป็นส่วนผสมในตำรับ “สีผึ้งขาวแก้พิษแสบร้อนให้เย็น” และ “ตำรับยาสีผึ้งบี้พระเส้น” ซึ่งเป็นตำรับยาที่ใช้ถูนวดเส้นที่แข็งให้หย่อนได้[2]

http://dd-productbkk.com/th/product-detail.php?id=118&gid=1-001-008

Product Name : White Oil
INCI NAME : Mineral OIl
ลักษณะเป็นน้ำมันใส บางเบา ไม่เหนอะหนะ สามารถเข้ากับน้ำมันตัวอื่นๆ ได้ดี ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ให้ผิวนุ่มลื่น ใช้ในสูตรโลชั่น น้ำมันนวดตัว น้ำนมอาบน้ำ น้ำมันล้างเครื่องสำอาง เป็นตัวทำละลายหลักในน้ำมันนวด มีสรรพคุณในการเคลือบผิวได้อย่างดี

การนำไปใช้ และ ปริมาณที่แนะนำ  Recommendation Percentage

ละลายในส่วนผสมทั้งหมด 50-80%
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่างๆ 1-5%
ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว 1-10%
ผลิตภัณฑ์ประเภทเมคอัพ 1-10%

Mineral oil เป็นสารไฮโดรคาร์บอนชนิดหนึ่งที่ได้จากกระบวนการสกัดปิโตรเลียม mineral oil ถูกนำมาใช้ในผลิตภันฑ์เกี่ยวกับผิวหนังโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความชุ่ม ชื้นให้แก่ผิวหนัง ป้องกันผิวหนังแห้ง ตกสะเก็ด คัน และลดการระคายเคืองผิวหนัง ซึ่งสาเหตุของผิวแห้งส่วนใหญ่เกิดจากการสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนัง mineral oil จะทำหน้าที่เป็นชั้นฟีล์มน้ำมันเคลือบบริเวณผิวหนังชั้นบนป้องกันไม่ให้เกิด การสูญเสียน้ำผ่านทางผิวหนังและเก็บรักษาความชุ่มชื้นไว้กับผิวหนัง

ด้านผลของ mineral oil ต่อการกระตุ้นให้เกิดสิว พบว่า American Academy of Dermatology (AAD) ได้จัด mineral oil ไว้เป็นประเภท “Unlikely to be comedogenic in human skin” ซึ่งหมายถึง “ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ที่ mineral oil จะทำให้เกิดสิวต่อผิวหนังมนุษย์ได้ ” โดยมีการทดสอบผลของ mineral oil ความเข้มข้น 0.5-30% ต่อการเปลี่ยนแปลงของสิวจากขนาดเล็กไปเป็นขนาดใหญ่ขึ้น พบว่ากลุ่มที่ได้ mineral oil เกิดการเปลี่ยนแปลงประมาณ 9-34% กลุ่มที่เป็น negative control (กลุ่มที่ได้รับสารที่เราทราบอยู่แล้วว่าจะไม่ทำให้เกิดสิว) เกิดการเปลี่ยนแปลงประมาณ 15-30% และกลุ่มที่ได้ positive control (กลุ่มที่ได้รับสารที่เราทราบอยู่แล้วว่าจะทำให้เกิดสิว) เกิดการเปลี่ยนแปลงประมาณ 85-95% ซึ่งจากการทดลองนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มที่ได้ mineral oil ไม่ได้ทำให้เกิดสิวแตกต่างไปจากกลุ่ม negative control มากนัก ดังนั้นจึงเป็นไปได้น้อยมากที่ mineral oil จะกระตุ้นให้เกิดสิวได้(1) แต่อย่างไรก็ตามมีผู้เชี่ยวชาญบางท่านแนะนำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิวควร หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ประกอบด้วย mineral ชนิด heavy mineral oils(2)

http://dd-productbkk.com/th/product-detail.php?id=119&gid=1-001-008

Product Name : น้ำมันระกำ
INCI NAME : Methyl Salicylate
เป็นส่วนผสมหลักของยาหม่อง และ น้ำมันนวด
น้ำมันระกำมีลักษณะเป็นน้ำมันใสๆ มีกลิ่นหอมฉุน เมื่อถูกผิวหนังจะรู้สึกแสบ ร้อน พบในพืชหลายชนิด พืชที่มีสารตัวนี้เรียกว่า Wintergreen จะใช้เป็นตัวยาสำคัญในตำรับยานวดคลายกล้ามเนื้อ ใช้เป็นตัวแต่งกลิ่น และด้วยคุณสมบัติเรืองแสงจึงใช้เปลี่ยนแสงอัตราไวโอเลตเป็นแสงที่มองไม่เห็น การนำไปใช้ประโยชน์ คือแก้ปวดเมื่อย และเคล็ดขัดยอก ทำให้คลายเส้น ใช้ทำยาหม่อง มีสารสำคัญคือ Methyl Salicylate จากธรรมชาติ และให้กลิ่นหอมตามธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ทุกชนิด สามารถละลายในน้ำมัน ทำให้มีความรู้สึกร้อน  มีสรรพคุณในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
ชื่อวิทยาศาสตร์ Gaultheria procumbens Linn.
ชื่ออังกฤษ wintergreen, Checkerberry, Teaberry Tree, Methyl Salicylate.
ลักษณะ เป็นไม้เล็กๆ แผ่ไปตามดิน ยอดจะชูขึ้นสูงประมาณครึ่งฟุต มีอายุเกิน 1 ปี
ใบ เดี่ยวออกสลับกัน ใบสีเขียวแก่ รูปไข่ ใบมีกลิ่นหอมหวานรสฝาด ดอก สีขาวออกที่ข้อข้างๆ ใบ ผล เป็น capsule สีม่วง มีส่วนของกลีบรองกสีบดอก สีแดงสดติดอยู่
ส่วนที่ใช้ ใบสด
สารสำคัญ ใบมี 99% methyl salicylate
ประโยชน์ ใบกลั่นให้น้ำมันระกำ
น้ำมันระกำ
ชื่อไทย นํ้ามันระกำ
ชื่ออังกฤษ Natural oil of Wintergreen
ลักษณะ เป็นนํ้ามันใสสีเหลืองอ่อน มีกลิ่น และรสฉุน
ประโยชน์ทางยา ใช้ภายนอกเป็นยาทาช่วยกระตุ้น ทำให้ผิวหนังบวมแดง ใช้รักษาโรคไขข้ออักเสบ ผสมในยาหม่อง ยาขี้ผึ้งจะทำให้ผิวหนังบวมแดง ยาภายในใช้ขนาดน้อยเป็นยาแต่งกลิ่น

No comments:

Post a Comment